Mobile Suit Gundam Re:Again

เซ็ตติ้งของต่างโลก ศักราชแห่ง RA

ศักราช RA (Re Again) คือยุคศักราชที่ผ่านพ้นสงครามครั้งใหญ่นับ 500 กว่าปี ระหว่างดาวโลกกับเผ่าพันธุ์ต่างดาวที่เรียกตัวเองว่า “คอนเคอร์” ที่มีเป้าหมายที่จะยึดครองระบบสุริยะเป็นอาณานิคมแห่งที่ 7 ของพวกมัน ก่อเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้นมา โคโลนี่หลายที่ถูกทำลายจนย่อยยับ ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะได้รับความเสียหลายส่วน รวมถึงโลกที่สภาพอากาศได้เปลี่ยนไป

แม้ช่วงเรื่องโลกจะเสียเปรียบต่อคอนเคอร์ในด้านอาวุธและยุทธวิถีในการต่อสู้ ทว่าการค้นพบอนุภาคไรนอฟสกี้ซึ่งให้พลังมากกว่านิวเคลียร์จากอาวุธของพวกคอนเคอร์ ก็ได้เริ่มพลิกสถานการณ์ให้ทั้งสองฝั่งกลับมาสูสี และแล้วฝั่งมนุษย์ก็ได้คิดค้นอาวุธรูปแบบใหม่ขึ้นมา มันชื่อว่า “Mobile Suit” อาวุธให้รูปแบบหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ที่ดึงพลังของอนุภาคไรนอฟสกี้ยิ่งกว่า โดยเฉพาะหุ่นตัวแรกของฝั่งโลกที่มีชื่อว่า “Gundam” ที่ได้สร้างตำนานการรบไว้มากมาย จนสร้างความสูญเสียต่อกำลังพลและจิตวิทยาของคอนเคอร์ จนนำไปสู่การเจรจาสงบศึกครั้งแรก

ทว่าในเวลาไม่กี่ปีสงครามก็ได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้งด้วยสาเหตุที่ไม่ทราบได้ ฝั่งโลกโทษว่าคอนเคอร์เป็นผู้ฉีกสนธิสัญญา ขณะที่ฝั่งคอนเคอร์เองก็โทษเรื่องนี้เป็นความผิดฝั่งโลกเช่นกัน ลากยาวกลายเป็นสงครามนับ 500 กว่าปี ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายได้รับความเสียหายอย่างหนัก เทคโนโลยีหลายอย่างที่ล้ำสมัยถูกทำลายไประหว่างสงคราม บางอย่างถูกทำลายให้สาบสูญไป ส่งผลให้ศักราช R.A. ในปัจจุบัน เทคโนโลยีหลายอย่างมีความล้าสมัยกว่าสมัยสงครามเมื่อ 500 กว่าปีก่อน

สาเหตุที่ศักราชในปัจจุบันตั้งชื่อว่า RA (Re Again) เพื่อแสดงให้เห็นว่า มนุษยชาติจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหลังสงครามอันยาวนานและไปสู่อนาคตอันสดใส ทว่าความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น………เพราะความขัดแย้งและการแก่งแย่งชิงดีระหว่างขั้วอำนาจของมนุษย์กำลังจะเริ่มอีกครั้ง……..

ไทม์ไลน์ของศักราช RA จะเรียงได้ดังนี้

RA 0001 - ประกาศชัยชนะที่สามารถขับไล่คอนเคอร์ออกไปจากระบบสุริยะได้ สถาปนา “สหพันธ์แห่งสุริยะ” หรือ S.C. (Solar Confederation) ขึ้นมาเพื่อปกครองมนุษย์ที่อยู่ในระบบสุริยะทั้งดาวเคราะห์และโคโลนี่ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเวียนนา

RA 0005 - ตั้งธรรมนูญสูงสุดฉบับแรกที่มีเนื้อหาสำคัญคือ “มุ่งเน้นการฟื้นฟูสภาพของโลกและโคโลนี่หลังสงครามจากศักราชก่อน จะมีการลดกำลังทหารและลดการนำเข้าอาวุธจากบริษัทเอกชน เพื่อทุ่มทรัพยาการในการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีอื่นๆ นอกจากเทคโนโลยีทางการทหาร รวมถึงประกาศให้โคโลนี่แต่ละไซด์มีสิทธิปกครองตัวเองได้ถ้าปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมมากพอ ยกเว้นอาณานิคมที่ดาวอังคารที่จะถูกยกเลิกสัญญาเช่าภายในไม่ถึง 5 ปี” ทำให้ประชาชนทั้งบนโลกและโคโลนี่ต่างๆ พอใจกับกฎหมายนี้มากและกลายเป็นยุคที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม 

โคโลนี่แต่ละไซด์เริ่มมีการพัฒนามากขึ้นเพื่อให้สามารถยืนอยู่ได้ตัวเอง ทั้งพัฒนาเทคโนโลยีในการดำรงชีวิตของคนภายในโคโลนี่และทำการค้าขายกันระหว่างโคโลนี่ ดาวโลก และดาวอังคาร ระบบสุริยะจึงอยู่ในสภาวะฟื้นตัวจากสงครามอยู่เต็มรูปแบบ

ทว่าอีกด้านหนึ่งฝั่งของทหารและกองทัพของโลกกลับไม่พอใจต่อสาระสำคัญของธรรมนูญสูงสุดฉบับแรก เนื่องจากถูกลดอำนาจด้วยการลดขนาดกองทัพ เทคโนโลยีอาวุธที่เดิมส่วนใหญ่สูญหายไปในสงครามในศักราช พอเจอผลกระทบจากธรรมนูญสูงสุดฉบับแรก การพัฒนาอาวุธและ MS จึงถดถอยลงอย่างมาก จนนายทหารระดับสูงหลายคนรู้อำนาจของกองทัพกำลังสั่นคลอน นำไปสู่การประชุมกันระหว่างทางสภาของสหพันธ์และกองทัพโลก โดยทางกองทัพโลกพยายามให้เหตุผลที่จะแก้ไขธรรมนูญสูงสุดว่า “แม้สงครามกับพวกคอนเคอร์จะจบไปแล้ว แต่พวกเรายังไม่ได้เซ็นสัญญาสงบศึกกับอีกฝ่ายอย่างเป็นทางการ พวกมันอาจจะกลับมารุกรานโลกและระบบสุริยะได้ทุกเมื่อ” แต่คำขอในการแกัไขธรรมนูญสูงสุดถูกปัดตกไป เนื่องจากสหพันธ์มีนโยบายที่จะฟื้นฟูประชากร โลก ความสัมพันธ์ระหว่างโคโลนี่และดาวอังคารให้ดีอีกครั้ง 

RA 0010 - อาณานิคมบนดาวอังคารหมดสัญญาเช่ากับสหพันธ์แห่งสุริยะ ซึ่งเซ็นต์สัญญากันตั้งแต่เมื่อ 120 ปีในศักราชก่อน เนื่องมาจากดาวอังคารในตอนนั้นเสียหายหนักในการทำสงครามกับคอนเคอร์ ไม่สามารถอยู่ในสภาพว่าที่พร้อมรบได้ จึงทำสัญญาเช่าให้กับกองทัพโลกเข้าป้องกันดาวอังคารและป้อนการผลิตเทคโนโลยีในการผลิตอาวุธให้กับกองทัพโลก การหมดสัญญาเช่านี้ทำให้อาณานิคมอังคารได้รับอิสระในการปกครองตัวเองและทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “รัฐมาร์ส” ถูกนับเป็นประเทศอิสระที่ไม่ขึ้นกับสหพันธ์

RA 0013 -  เกิดเหตุกองกำลังที่คาดว่าเป็นคอนเนอร์บุกเข้าโจมตีสภาของสหพันธ์ที่เจนีวา จนเป็นเหตุให้สมาชิกสภาหลายต้องเสียชีวิต รวมถึงประธานสภาสูงสุด “จอห์น จี แคนนาดี้” ผู้เป็นหัวหอกในการผลักดันธรรมนูญสูงฉบับแรกเป็นผลสำเร็จ ก่อเกิดสภาวะสูญญาการในการปกครองของสภา เปิดช่องให้นักการเมืองหลายคนอยากเข้ามีที่นั่งในสภา กองทัพโลกเองก็มีความสนใจที่จะเข้ามามีที่นั่งในสภาด้วย

RA 0015 - หลังจากการชำระธรรมนูญอีกครั้งเป็นเวลา 2 ปี สมาพันธ์แห่งสุริยะได้ตั้งธรรมนูญสูงสุดฉบับชั่วคราว ให้สามารถนำบุคคลจากกองทัพเข้ามาเป็น 1 ในสมาชิกสภาสูงสุดได้ ซึ่งผู้ที่ได้รับเข้าตำแหน่งนี้คือ “นายพลปรายุทธ นาจโอชา” ทำหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาด้านกำลังพลและความปลอดภัยให้กับประธานสูงสุดของสหพันธ์คนใหม่ “ริชาร์ด ดิกสัน” ซึ่งถูกเลือกตั้งอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้มีภาวะสุญญากาศทางการปกครองนานเกินไป

RA 0020 - สมาพันธ์แห่งสุริยะได้ตั้งธรรมนูญสูงสุดฉบับที่ 2 ขึ้นมา ทว่าสร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนและส่วนการปกครองของโคโลนี่ในแต่ละไซด์อย่างมาก เพราะเนื้อหาของฉบับที่ 2 กล่าวสาระสำคัญไว้ว่า “จะมีการลดการลงทุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูโคโลนี่ให้น้อยลง เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการรบและการค้นหา Black Box กับโอเวอร์เทคโนโลยี รวมถึงการบังคับเกณฑ์คนจากโคโลนี่เข้ามาเป็นทหาร เพื่อจะทำการตอบโต้พวกคอนเคอร์ที่เข้ามารุกรานระบบสุริยะอีกครั้ง รวมถึงต้องการที่จะทุ่มเทการฟื้นฟูโลกมากกว่า”

ผลจากธรรมนูญสูงสุดฉบับที่ 2 ทำให้เศรษฐกิจและสังคมของโคโลนี่แต่ละแห่งได้ความเสียหายอย่างหนัก เพราะ GDP ของโคโลนี่ลดลงจากการลงทุนที่ลดน้อยถอยลง แรงงานและคนรุ่นใหม่ในโคโลนี่น้อยลงจากการบังคับเกณฑ์ทหาร ทางนวัตกรรมเอง Black Box และโอเวอร์เทคโนโลยีที่โคโลนี่เก็บกู้มาเพื่อศึกษาในพัฒนาเทคโนโลยีด้านคุณภาพชีวิตประชาการ ถูกสหพันธ์ยึดไว้โดยอ้างเหตุผลในการเตรียมรับมือกับพวกคอนเคอร์

แม้บรรดาโคโลนี่ที่เหลือรอดอยู่จะไม่พอใจอย่างมาก ทว่าด้วยความหวาดกลัวต่อการกลับมาของพวกคอนเคอร์ พวกเขาจึงจำใจต้องยอมเนื่องจากมีเหตุการณ์ลอบวินาศกรรมที่คาดว่า เป็นฝีมือของพวกคอนเคอร์

RA 0025 - เกิดความขัดแย้งระหว่างสมาพันธ์แห่งสุริยะที่มีศูนย์กลางที่โลก กลุ่มโคโลนี่ทั้ง 6 ไซด์ และดาวอังคาร ในกรณีที่ตำรวจ หน่วยควบคุมม็อบ และผู้ตรวจการสมาพันธ์จากโลกทำกระทำการเกินกว่าเหตุในเหตุการณ์ประท้วงที่จตุรัสเทียนหมินที่โคโลนี่ไซเนี่ยนในไซด์ 1 ซึ่งใกล้กับโลกมากที่สุด อันมีสาเหตุมาจากเศรษฐกิจในโคโลนี่และดาวอังคารเกิดความย่ำแย่เพราะสมาพันธ์ให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจและการฟื้นฟูดวงดาวแม่มากเกินไป ความไม่พอใจแต่สหพันธ์แห่งสุริยะที่สะสมตลอด 5 ปีที่ผ่านจึงได้ระเบิดขึ้น ส่งผลให้เกิดการสังหารหมู่ประชาชนที่มาประท้วงจำนวนมาก ก่อนที่ในเวลาไม่กี่ต่อมาโคโลนี่นี้จะกลายเป็นโคโลนี่ร้างไป

RA 0027 - กลุ่มโคโลนี่ทั้ง 5 ไซด์ประกาศแยกตัวจากสมาพันธ์แห่งสุริยะ ตั้งเป็นกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “Space Kindred of Liberty” หรือ เครือญาติอวกาศแห่งเสรีภาพ ชื่อย่อ “S.K.L.” เพื่อแสดงจุดยืนในการต่อต้านสหพันธ์และสร้างอำนาจในการปกครองกันเอง ซึ่งสร้างความไม่พอใจของสหพันธ์อย่างมาก จนมีการตั้งชายแดนอวกาศกันและนำกำลังทหารมาประชิดชายแดน มีเพียงแต่ดาวอังคารที่จะเลือกจะเป็นกลาง ไม่เข้ากับกลุ่มใด แต่เลือกจะขู่สหพันธ์แห่งสุริยะด้วยสนธิสัญญาบางอย่าง ทำให้ดาวอังคารเป็นกลางอย่างแท้จริง

RA 0029 - ทั้งสหพันธ์สุริยะและกลุ่ม S.K.L. ยุติความขัดแย้งกันชั่วคราวหลังได้รับสัญญาณจากแนวขอบสุริยจักรวาล มีการคาดการว่าอาจจะการบุกโจมตีของพวกคอนเคอร์ที่หลายคนหวาดกลัวก็ได้ ทางสหพันธ์จึงมีคำสั่งโดยตรงถึงนายพลโอคิตะ เซ็นปุจิ วีรบุรุษในสงครามกับพวกคอนเคอร์ครั้งก่อน นำกองยานไปตรวจสอบและเตรียมรับมือกับพวกคอนเคอร์อีกครั้ง 

เมื่อไปยังจุดที่ได้รับสัญญาณที่ว่าก็ได้พบกับกองยานใหม่ของพวกคอนเคอร์ ทว่าด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาดของนายพลโอคิตะที่ไม่ได้เปิดฉากยิงก่อน ทำให้กองยานรบได้รับความเสียหายอย่างหนักในการปะทะแม้จะขับไล่อีกฝ่ายไปได้ ความเสียหายในครั้งนี้ทำให้นายพลโอคิตะถูกลดยศให้เป็นพลโทและย้ายฐานไปประจำที่ใหม่แทน

RA 0030 - สงครามระหว่างสหพันธ์และกลุ่มเครือญาติโคโลนี่ได้เริ่มขึ้น สาเหตุมาจากสหพันธ์ได้ละเมิดข้อตกลงการแบ่งแยกชายแดนและไปทำลายยานพลเรือนของกลุ่ม S.K.L ด้วยสาเหตุบางประการ ส่งผลให้กลุ่มเครือญาติโคโลนี่ตอบโต้ด้วยการผลักซากโคโลนี่จากสงครามครั้งก่อนตกใส่โลก ทั้งสองฝ่ายจึงงัดเทคโนโลยีที่หลงเหลือจากสงครามครั้งก่อนมารบกัน ขยายการเป็นสงครามขนาดใหญ่

RA 0034 - กลุ่ม S.K.L. ก็ได้ก่อโศกนาฎกรรมโคโลนี่ดรอปหรือการทิ้งโคโลนี่ไซเนี่ยนจากไซด์ 1 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการสังหารหมู่ของสหพันธ์ โดยพยายามจะทิ้งลงใส่ตำแหน่งที่กรุงเวียนนา เพื่อเป็นการเอาคืนสหพันธ์และต้องการจะสร้างความเสียหายหนักให้อีกฝ่ายแบบสายฟ้าแลบ ทว่าด้วยความคลาดเคลื่อนในการระบุพิกัดและการขัดขวางจากกองทัพสหพันธ์ ทำให้จุดตกของโคโลนี่ตกไปยังประเทศจีนแทน ส่งผลให้จีนได้รับความเสียหายอย่างหนักในเหตุการณ์ครั้งนี้ และจุดเชื้อเพลิงความแค้นให้รุนแรงยิ่งกว่าเดิมจนไม่มีใครยอมใครอีกต่อไป

R.A. 0047 - สงครามยังดำเนินต่อไปจนกระทั่งจุดเปลี่ยนของสงครามได้เริ่มขึ้น………..

ศัพท์เฉพาะในเรื่อง

Mobile Suit (MS) - หุ่นยนต์รบรูปร่างมนุษย์ที่เป็นกำลังหลักในสงครามตั้งแต่สงครามกับพวกคอนเคอร์ไปจนถึงสงครามศักราช R.A. มีส่วนสูงมาตรฐานที่ประมาณ 18 เมตร ขับเคลื่อนในอนุภาคไรนอฟสกี้ซึ่งได้ข้อมูลมาจากพวกคอนเคอร์ ในสงครามกับพวกคอนเคอร์ เทคโนโลยีของ MS ถูกทำลายหรือสูญหายไปจำนวนมากเป็นเหตุผลให้มีความถดถอยลงอย่างมาก ทว่าบางครั้งก็มีการค้นพบ MS จากยุคก่อนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่เสียหายหนัก แม้นำมาซ่อมใหม่ก็ส่วนใหญ่อาจจะดึงพลังได้เท่าสมัยก่อน

ปัจจุบันการใช้งาน MS มีการใช้งานควบคู่กับรถถัง เครื่องบิน เรือรบ และเรือดำน้ำมากขึ้น เพื่อในการสนับสนุน MS และขยายกองกำลังทดแทนโอเวอร์เทคโนโลยีที่ยังไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่จากศักราชก่อนได้

Mobile Armor (MA) - หุ่นยนต์รบที่ไม่ได้จำกัดอยู่ในรูปร่างของมนุษย์ อาจจะมีขนาดใหญ่กว่าหรือพอๆ กับ MS หรือจะเป็นร่างแปลงอีกโหมดหนึ่งของ MS เลยก็ได้ ปัจจุบันส่วนใหญ่มักจะจัดอยู่ในหมวดโอเวอร์เทคโนโลยี

Black Box - ชื่อเรียกโดยรวมของเทคโนโลยีที่สูญหายไปในสงครามครั้งก่อนหรือ “โอเวอร์เทคโนโลยี” ไม่ว่าจะเป็นของมนุษย์หรือคอนเคอร์ มันมีมูลค่าที่ประเมินไม่ได้ทั้งในแง่การเงิน เทคโนโลยี และการรบ จนมีคำกล่าวที่ว่า “ผู้ได้ที่สามารถแกะและสร้างสิ่งที่มาจาก Black Box ได้ ผู้นั้นจะมีพลังอำนาจอันมหาศาลได้เลย” ทำให้เป็นที่ต้องการของหลายฝ่ายจนมีการแย่งชิงกันทั้งในทางลับๆ หรือแย่งชิงกันโต้งๆ เลยทีเดียว 

โอเวอร์เทคโนโลยี - ชื่อเรียกเทคโนโลยีจากศักราชก่อนหน้าที่อยู่ในช่วงสงครามกับชาวคอนเคอร์ ซึ่งเป็นยุคที่มีการแข่งขันพัฒนาเทคโนโลยีจะกำเนิดหุ่นรบที่มีความสามารถและประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่มักจะเป็น MS มากกว่า ซึ่งมีพลังและความสามารถที่เหนือชั้นกว่าเทคโนโลยีส่วนใหญ่ของศักราช RA ในปัจจุบันอย่างชัด สามารถค้นพบได้อยู่ 2 วิธี คือ 1) เหลือรอดมาจากสงครามในศักราชก่อน มีน้อยมากที่จะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เพราะส่วนใหญ่จะได้รับความเสียหาย 2) ค้นพบจากการศึกษาผ่าน Black Box 

นิวไทป์ - มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นหลังมนุษย์ได้สำรวจอวกาศอย่างจริงจังเมื่อศักราชก่อน มีทฤษฎีว่า การกำเนิดนิวไทป์นั้นก็เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์อาศัยอยู่ในอวกาศเป็นเวลามากพอ มนุษย์จะวิวัฒนาการให้สามารอยู่ในอวกาศโดยสื่อสารกันผ่านโทรจิตได้ สามารถรับรู้อันตรายด้วยประสาทสัมผัสที่ 6 และยังมีความสามารถที่มิอาจทราบได้เกี่ยวกับนิวไทป์อยู่อีกมากมาย

อนุภาคไรนอฟสกี้ - อนุภาคแบบใหม่ที่มักจะใช้ขับเคลื่อน MS กับ MA เป็นหลัก ปฏิกิริยาทางนิวเคลียร์ฮีเลียมแบบที่ 4 ที่ใกล้เคียงการฟิวชั่นและสามารถควบคุมได้ ตัวอนุภาคนี้มีขนาดของมวลใหญ่กว่าอิเล็กตรอน แต่มีคุณสมบัติในการเหนี่ยวนำด้วยสนามแม่เหล็กได้และมีมวลที่เบา นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่รบกวนสัญญาณคลื่นวิทยุรวมถึงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ไม่สามารถติดต่อสื่อสารจากระยะไกลๆ ได้ ในสนามรบการสื่อสารจึงมีระยะที่จำกัดและใช้เคลื่อนความถี่ต่ำในการสื่อสารกัน

กล่าวโดยสรุปคือ มันคืออนุภาคไมนอฟสกี้ในฉบับของศักราช RA ดีๆ นี่แหละ

โคโลนี่ - อาณานิคมอวกาศที่มีส่วนภายนอกจะเป็นโลหะล้อมรอบ และมีระบบการจัดการให้บรรยากาศภายในโคโลนี่เหมือนกับโลก โดยแต่ละอันสามารถจุคนได้นับล้านคน ต่อมาได้มีการจัดกลุ่มโคโลนี่เป็นไซด์ต่างๆ นับได้ 7 ไซด์ โดยที่หนึ่งไซด์จะมีโคโลนีประมาณ 35-40 แห่ง แต่ละแห่งจุคนเป็นพันๆ ล้านคน มีการหมุนรอบตัวเองทุก 2 นาทีเพื่อสร้างแรงดึงดูดจำลอง โคโลนี่ส่วนมากจะถูกสร้างเป็นลักษณะเปิด และมีการติดตั้งกระจกเพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์สำหรับความสว่างในโคโลนี่ แต่ก็มีโคโลนี่บางแห่งที่เป็นแบบปิด ซึ่งมีระบบสร้างแสงด้วยตนเองโดยรับพลังงานจากแสงอาทิตย์

ปัจจุบันโคโลนี่เหลือเพียงไซด์ที่ 1-6 ที่รอดมาจากสงครามในศักราชก่อน ขณะที่ไซด์ 7 ถูกทำลายแล้วในสงครามครั้งนั้น

โดม - เทคโนโลยีสำหรับการสร้างเมืองในดาวอาณานิคมในระบบสุริยะจักรวาลอย่างดาวพุธ ดาวอังคาร และดาวพฤหัส โดยจะสร้างโดมแก้วใสที่ภายในจะมีเมืองและระบบสาธารณูปโภคสำหรับการอยู่อาศัย

คำเตือน นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่รุนแรง คำหยาบ และมีเนื้อหาที่อาจกระทบกระเทือนถึงกลุ่มคนบางกลุ่ม  เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน และอ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น